ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

“กระสุนด้าน”

     จบเกม “สงครามลอนดอนเหนือ” ไปเรียบร้อยแล้ว บอกตามตรงว่าก่อนเกมไม่ได้คาดหวังแบบเต็มที่อะไรมากกับเกมนี้ ด้วยผลงานที่ผ่านมาเทียบกัน ชั่วโมงนี้ คู่แข่งผลงานดีกว่าชัดเจน แต่ขึ้นชื่อว่า ดาร์บี้แมตซ์ จะบอกว่าลงไปเพื่อรอดูทีมแพ้ ก็ไม่ใช่ สิ่งที่ต้องการคือการเห็น นักเตะ ลงสนามไปพร้อมกับความมุ่งมั่น สู้สุดตัว และเกมสนุก ที่เหลือมารอดูผลลัพธ์ ตอนจบ 90 นาที

     จบเกมนี้ พ่ายไป 2-0 บนความรู้สึกหลายอารมณ์มาก แต่บทความนี้ที่เขียนขึ้น ผ่านการนอนหลับไป 7 ชั่วโมงแล้ว เพื่อไม่ให้เต็มไปด้วยอารมณ์มากเกินไป สิ่งที่เขียนต่อจากนี้คือความคิดเห็นจากเกมเมื่อวานนี้ เป็นหลัก

มิเคล อาร์เตต้า เข้ามาคุมทีมอาร์เซนอล กำลังจะครบหนึ่งปีกับสโมสรในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า

แนวคิดหลักในการเล่น

     แนวคิดหลักในการเล่น อาร์เซนอล เซตบอลจากแนวหลัง – กลาง – หน้า เล่นแบบนี้มาตั้งแต่ ยุค อูไน อเมรี่ จนถึงมา อาร์เตต้า แนวคิดนี้ก็ยังคงอยู่ ทีมเข้าใจระบบการเล่นที่นายทวารต้องเล่นด้วยเท้า ออกมาเหมือนเป็น สวีปเปอร์ ตัวสุดท้าย หลังผ่านการเล่นกันมาเกือบสามปีเต็ม ระยะหลังทีมไม่ค่อย “ล่ก” เวลาต้องเล่นบอลหน้าโกลตัวเองเท่าไรแล้ว

     กองหลังกับกองกลางเชื่อมกันได้ กองกลางจะมี หน้าที่ 2-3 แบบ หนึ่งผ่านบอลไปให้ตัวด้านหน้า เพื่อไปเดินเกมต่อ หรือสอง เลือกเล่นกับตัวริมเส้น เพื่อทำการเชื่อมต่อบอลกัน  หรือบางทีหากตีบตันมาก กองกลางเดินเกมไม่ได้ เราจะเห็นกองหลังเปิดบอลยาวบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากวันนั้น ดาวิด ลุยซ์ ลงสนามมาด้วย จะเห็นภาพแบบนี้บ่อย กับผ่านบอลตรงบริเวณวงกลมกลางสนาม 

     ตัวข้างมีหน้าที่เป็นตัวข้างคือ เลี้ยงเลาะริมเส้น เชื่อมบอลกัน กับตัวกลาง เป้าหมายคือ พาบอลไปหากองหน้า หรือตัวในกรอบ ซึ่ง โอบาเมยอง หรือหน้าเป้าตัวอื่นจะอยู่ในนั้น หลักๆ ก็คือ เปิดบอลเข้ากลางทั้งแบบ เรียด-โด่ง เลือกเอา…เปิดไม่ได้คืนหลัง ครองบอลเอาไว้ กองกลาง ทำหน้าที่แบบเดิม วนหาช่องทางใหม่ เล่นแบบนี้ 3-4 รอบ จะเริ่มคิดว่าเหมือน นักเตะอาร์เซนอล กำลัง “วนหาที่จอดรถ” แต่ยังหาที่จอดไม่ได้ ก็วนต่อไป  ดังนั้นไม่แปลกใจทำไม่อาร์เซนอล ครองบอลเยอะ ในแต่ละเกม

     กองหน้าเป้าในยุคของ อาร์เตต้า จะทำงานหนักมากในการแย่งขิงพื้นที่เข้าทำกับกองหลังคู่แข่ง ไม่ว่าจะใครก็ตาม เพราะด้วยจำนวนที่น้อยกว่า แนวรับ เรามักเห็น กองหน้าเป้า อาร์เซนอล อยู่ในสถานการณ์ 2-1 ตลอดในเขตโทษ หลายครั้งต้องออกมาด้านข้างเพื่อมีส่วนกับบอลบ้าง ยังไม่รวมถึงการลงมาเล่นเกมรับ ที่ อาร์เตต้า ต้องการให้นักเตะในทีมช่วยในส่วนนี้ด้วย

     นักเตะ อาร์เซนอล ชุดนี้เล่นด้วย “หน้าที่” เป็นหลัก แต่ไม่มีความหลากหลายในการเล่น ให้ทำอย่างไรก็จะตะบี้ตะบันทำมันอยู่อย่างนั้น และเป็นแบบนี้มานานแล้ว แต่สิ่งที่รอบนี้มันแย่มากคือ เมื่อคนสำคัญที่ทำให้ทีมชนะ กลับยิงประตูไม่ได้

     “เราเปิดบอลเข้ากลางถึง 53 ครั้ง มันเป็นจำนวนที่มากเหลือเชื่อ” อาร์เตต้า กล่าวหลังเกมเมื่อวาน อ่านแล้วก็รู้สึกดี เออ บุกเยอะนะ แต่ถ้ามองอีกด้าน ฉิบหายเปิดบอลเกินครึ่งร้อย แต่ไม่ได้สักประตูเลยเนี่ยนะ แบบนี้เอ็งจะเปิดทำไมตั้ง 53 หน และที่สำคัญ เมื่อมองย้อนไปข้อบน การที่กองหน้าเจอสถานการณ์ 2-1 แถมกองหน้าปืนใหญ่ ไม่ได้มีสกิลเด่นเรื่องลูกกลางอากาศ เปิดเข้าไปก็เหมือนอัดใส่กำแพง ต่อให้เปิดบอลเรียดก็ยากจะเข้าถึงบอลได้ ยิ่งในวันที่เจอกับทีมเกมรับแข็งอย่าง สเปอร์ส ยิ่งไปกันใหญ่

     ไม่ได้บอกว่า มันไม่ดีกับการเปิดบอลเพื่อสร้างโอกาส หรือการเชื่อมั่นในแนวทางการเล่นของตนเอง แต่เมื่อไม่ได้ผล หากโค้ช หรือ นักเตะ ควรมีแพลนบี หรือ แพลนซี เอาไว้ด้วย เมื่อจำเป็นต้องใช้

แถวสอง

     สิ่งที่ขาดหายไปนานมากอีกอย่างคือการเข้าทำของ “แถวสอง” เราไม่มีนักเตะยิงไกลมานานมากแล้ว ต่อให้นักเตะคนนั้นจะย้ายมาพร้อมสถิติที่ดีแค่ไหนในการยิงไกลจากระยะกลาง ย้ายมา อาร์เซนอล ก็จะไม่ได้ใช้งาน ไม่ว่าจะ ชาก้า, วิลเลี่ยน หรือกระทั่งใครต่อใคร ปาเตย์มาใหม่ ยังมียิงไกล แต่นานไป ถ้ายังเล่นกันแนวคิดนี้ ปาเตย์ ก็จะเลิกยิงไกลไปโดยปริยาย เพราะแนวคิดแผนการเล่นมันไม่ต้องการ

     “เรามีปัญหาให้พื้นที่สุดท้าย ถ้าเรายิงไม่ได้ทุกอย่างก็จบ ไม่ว่าจะดีแค่ไหนในส่วนอื่น แต่ยิงไม่ได้ เราก็ไม่ชนะ ดังนั้นอยากชนะต้องยิงให้ได้ก่อน” อาร์เตต้า กล่าวอีกก็ถูกอีก

     “ปืนบ่มีลูก ยิงถูกก็บ่ตาย”

     โอบาเมยอง คือ นักเตะ ที่ยิงประตูในลีกครั้งสุดท้ายแบบ Open Play คือเกมเปิดฤดูกาลที่พบกับ ฟูแล่ม หลังจากนั้นในลีกมายิงจุดโทษในเกมชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เหลือเป้าสะอาดมาตลอด แน่นอนมันส่งผลต่อความเชื่อมั่นของเขาเป็นอย่างมาก ไม่รวมถึง ลากาแซตต์, ซาก้า หรือ วิลเลี่ยน ดูยังไงนักเตะเล่นมั่นใจ ให้ดู เคน ยิงอาร์เซนอลเกมเมื่อวานนี้ นั่นละคนยิงแบบ “มั่นใจ” ส่วน โอบาเมยอง เมื่อวานคิดมากไปในหลายจังหวะ ทำให้ไม่ได้จบ หรือจบแล้วเจอบล๊อค

     ทางออกที่คิดได้ในเวลานี้กับการเรียกความมั่นใจคือ โอบาเมยอง ควรลงในเกมเจอ ดันดัลค์ ที่จะถึงในกลางสัปดาห์นี้ ลงไปเพื่อเจอเกมที่กดดันน้อยลง และสร้างความเชื่อมั่นกลับมา ไม่ได้บอกว่าต้องยิงให้ได้ แต่สิ่งที่ “โอบา” ต้องการคือ จังหวะยิงในเกมการแข่งขัน ของแบบนี้ โค้ชกระตุ้น แฟนบอลช่วยเชียร์ แต่สุดท้ายอยู่ที่ตัวผู้เล่นเอง เป็นสำคัญ เหมือนคนอกหัก จะลืมใครสักคน ทำได้หรือไม่ อยู่ที่ตัวคนที่อกหักนั่นละ  ถ้าก้าวข้ามได้ โอบาเมยองจะไม่กังวลกับเรื่องแบบนี้อีกเลย

     การเล่นเกมรับ อาร์เซนอล เสียประตูแทบทุกเกม แม้เกมกับ ราปิด เวียนนา ยังเสียเรื่องนี้ อาร์เตต้า แก้มาเป็นปี ดูแล้วเริ่มมีเค้าลางทีดี แม้จะเสียเยอะ เสียบ่อย แต่ก็ไม่เสียง่ายแบบเมื่อก่อนแล้ว สองประตูกับ สเปอร์ส ต้องยกให้ความยอดเยี่ยมของ ซอน และ เคน ที่มันยิงแบบมั่นใจ และคลาสสิกมาก

     อีกหนึ่งอย่างที่อาร์เซนอล ขาดหายไปคือ มิติในการเข้าทำพื้นที่สุดท้าย ว่าง่ายๆ เลยคือขาด ความคิดสร้างสรรค์ ที่หลายคนก็จะรู้อยู่แล้วว่า อาร์เซนอล มี เมซุต เออซิล อยู่ในทีมแต่ดันไม่ใช้งานเขา (จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามก็คือไม่ใช้งาน) หลายเกมที่แพ้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการเล่นแบบ “หน้าที่ใครหน้าที่มัน” อย่างที่บอก แต่คนที่มีหน้าที่ “สร้างสรรค์” กลับไม่มีในสนาม เมื่อก่อน อาจไม่ส่งผลเยอะ ไม่เห็นชัดเจน เพราะทีมยิงได้ โอบาแผลงฤทธิ์ออก แต่มาวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เรื่องนี้มันก็ชัดเจนขึ้นว่า อาร์เซนอล ไม่มีคนเล่นตรงนี้ได้เลย แม้กระทั่ง วิลเลี่ยน ที่ว่ากันว่าเล่นได้ ก็ไม่ได้ถูกส่งลงเล่นตรงนี้ ที่สำคัญ ฟอร์มของเขาเองตอนนี้ก็ยังคงน่าผิดหวังมาก กับค่าเหนื่อยระดับ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

แนวโน้มปีหน้า

     มองจากความเห็นส่วนตัว อาร์เซนอล อาจอยากได้ตัว ฮอสเซม เอาอาร์ หรือกระทั่ง โดมินิค โซโบสไล ก็เพื่อมาทดแทนตรงจุดนี้ แต่ในเมื่อเวลานี้ไม่ได้ตัว แถมดันตัด เออซิล ออกจากทีมจนถึงอย่างน้อยปีหน้า ก็ต้องแบกรับปัญหาในการทำให้ทีมกลับมาชนะกันต่อไป ตรงนี้มองว่า อาร์เตต้า โคตรพลาดที่ตัดนักเตะออก โดยที่ไม่สามารถหาคนมาแทนได้ ทั้งที่ความจริงจับนั่งสำรองก็ยังได้อยู่ (บนข้อเท็จจริงที่ไม่มีใครรู้ว่าทำไม เออซิล ถึงโดนดรอปออกจากทีม ตอนนี้มีแต่คาดเดากันไปทั้งสิ้น)

     เออซิล จะกลับมาลงเล่นกับ อาร์เซนอล อีกไหม ส่วนตัวมองว่ายากมากแล้ว ด้วยความสัมพันธ์กับ อาร์เตต้า อาจจะยังพอกลับมาคุยกันได้ เพราะอาร์เตต้าก็พูดหลายครั้งในทำนองเสียดายในการตัดเออซิลออก แต่กับ บอร์ดบริหาร ดูแล้วยากยิ่งนัก

     อาร์เตต้า จะยังอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ในเวลานี้ส่วนตัวมองว่า อาร์เตต้า ยังเป็นโค้ชที่ดี แต่เวลานี้เขาเจอกับสถานการณ์ลำบากที่ต้องแก้ไข เป็นบทเรียนที่เขาไม่เคยเจอตอนไปสอบใบอนุญาตโค้ช หรือนั่งข้างสนามดู เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำทีม ความรู้สึกนี้เขากำลังเจอมัน ถ้าผ่านได้ เขาจะเก่งขึ้นแน่นอน แต่ถ้า ธันวาคม 2020 อีก 6-7 เกมที่รออคอยอยู่ ผลงานยังห่วยแตกไม่เลิก ก็มีโอกาสสูงที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทีมอาร์เซนอลเช่นกัน

     บอร์ดบริหารลงทุนเพื่อต้องการให้ อาร์เตต้า พาทีมประสบความสำเร็จ แต่ในเมื่อทำไม่ได้ แถมแนวโน้มไม่มีที่ท่าจะดีขึ้นก็ต้องตัดสินใจ แต่ถึงเวลานี้ เก้าอี้ของเขายังแค่สั่นคลอน สิ้นปี 2020 ผลลัพธ์ออกมาอย่างไร ตรงนั้นว่ากันใหม่

     ถ้าเปลี่ยนแปลง อาร์เซนอล ก็ต้องไปเริ่มกันใหม่หมด เหมือนตอนปลด อูไน อเมรี่ นั่นล่ะ แต้ถ้าไม่ปลด อาร์เตต้า ก็ต้องทำให้ทุกคนในสโมสร รวมถึงแฟนบอล เชื่อได้ว่า เขาจะเป็นคนที่ใช่ ในการพาทีมประสบความสำเร็จได้ในอนาคต เหมือนที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ พิสูจน์กับลิเวอร์พูล จนตอนนี้พวกเขาคือเบอร์หนึ่งของประเทศอังกฤษนั่นเอง

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้