จาดอน ซานโช่ (21 ปี สัญญาถึงกลางปี 2023) ปิดมหากาพย์การย้ายทีมเรียบร้อย หลังจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บรรลุข้อตกลงกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์ ได้เป็นอันเสร็จสิ้น ก่อนที่จะประกาศการเซ็นสัญญากับอย่างเป็นทางการ เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเหลือเพียงแค่การเซ็นสัญญา และเปิดตัวกับสโมสรเท่านั้น
ซานโช่ วัย 21 ปียังอยู่ในแคมป์ของทีมชาติอังกฤษ ในภารกิจยูโร 2020 ซึ่งอังกฤษเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว โดยจะพบกับ ยูเครน ในรอบต่อไป ซึ่งจะลงเล่นใน กรุงโรม ประเทศ อิตาลี โดยหากพวกเขาผ่านเข้ารอบนี้ไปได้ พวกเขาจะได้ลงเล่นในเวมบลีย์ทั้งหมด ซึ่งจะกลายเป็นข้อได้เปรียบทันที อย่างไรก็ตาม ซานโช่ มีส่วนกับเกมเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น กับ ยูโร 2020 ครั้งนี้ เมื่อ แกเร็ธ เซาธ์เกต เลือกเขาเป็นตัวสำรองต่อจาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แจ็ค กรีลิช รวมถึง บูคาโย่ ซาก้า แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
“ปีศาจแดง” พยายามดึงตัว ซานโช่ มาตั้งแต่หนึ่งปีก่อนหน้านี้ ติดตามกันมายาวนานหลายเดือน สุดท้ายการซื้อขายไม่เกิดขึ้น แต่ก็ทำให้ ดอร์ทมุนต์ ได้มีการพูดคุยกับ นักเตะ และยืนยันว่าจบฤดูกาล 2020-2021 พวกเขาจะไม่ทำให้ ซานโช่ ผิดหวัง ขอเพียงแค่ข้อเสนอดีพอ พวกเขาจะปล่อย ซานโช่ กลับบ้านเกิดอีกครั้ง
หลังจากจบฤดูกาล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินเรื่องทันที และมีการถกตัวเลขกันมาตั้งแต่ 95 ล้านยูโร มากันจนถึงวันสุดท้ายจบลงด้วยราคา 85 ล้านยูโร (72.6 ล้านปอนด์) อย่างไรก็ตามราคานี้ จะต้องโดนแบ่ง 15 % ไปให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้นสังกัดเดิมของเขาที่ขายให้กับ ดอร์ทมุนต์ ด้วยราคา 10 ล้านปอนด์ ในปี 2017 ซึ่งเป็นสัญญาที่เซ็นกันไว้ และด้วยราคานี้จะทำให้ เรือใบสีฟ้า ได้ค่าตัวไปประมาณ 9.7 ล้านปอนด์ จากส่วนแบ่งทั้งหมด
นักเตะ ได้รับสัญญาจำนวน 5 ปี จนถึงปี 2026 โดยรับค่าเหนื่อย 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นอันดับสองของสโมสร ต่อจาก ดาบิด เด เคอา นายทวารทีมชาติสเปน ที่รับอยู่ 375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ซานโช่ ตลอดสี่ปีกับ ดอร์ทุมนต์ ผลงานโดดเด่นตั้งแต่ย้ายมาในปี 2017 เขาลงเล่นทั้งหมด 137 เกม โดยทำไปทั้งหมด 50 ประตู และก้าวขึ้นสู่ทีมชาติอังกฤษ เป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี 2018 กลายเป็นกระแสที่ทำให้ นักเตะ ดาวรุ่งชาวอังกฤษย้ายไปเล่นใน บุนเดสลีกา เยอรมัน กันอีกหลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เอมิล สมิธ โรว์, รีส เนลสัน, โอลิเวอร์ เบิร์ก รวมถึงล่าสุดกับ จู๊ด บิลลิงแฮม ซึ่งติดทีมชาติอังกฤษไปเล่นใน ยูโร 2020 ด้วยเช่นกัน สำหรับผลงานล่าสุดของ ซานโช่ ในฤดูกาลที่แล้ว ลงเล่นทั้งหมด 38 เกม ทำไปทั้งหมด 16 ประตู
การเข้ามาของ ซานโช่ จะเป็นการเสริมทัพตัวรุกทางด้านขวาของทีมในระบบ 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 ของทัพปีศาจแดง ร่วมกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ เฟร์นานเดส รวมถึง เอดินสัน คาวานี่ โดยจะเป็นคู่แข่งโดยตรงของ เมสัน กรีนวู้ด ที่เล่นทางขวาของทีมในเวลานี้ อย่างไรก็ตาม เจ้า ไม้เขียว ยังคงมีอนาคตกับทีมแน่นอน เพราะสามารถเล่นเป็นกองหน้าได้ด้วย หรือว่าจะขยับมาเล่นตรงกลางก็ได้อีกเช่นกัน
ซานโช่ ได้ชื่อว่าเป็นปีกจอมเลี้ยงลุยที่ดีที่สุดของ บุนเดสลีกา กับทักษะการเล่นที่มีประสบการณ์มาตั้งแต่เด็ก กับฟุตบอลข้างถนน มาจนถึงทักษะ และพรสวรรค์ในเรื่องของการควบคุมบอล ที่เด่นไม่แพ้กัน นั่นจะทำให้ แนวรุกของปีศาจแดง หลากหลายและอันตรายมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยการเป็นรองแชมป์ ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุด นับจากการคว้าแชมป์ครั้งสุดท้ายในฤดูกาล 2012-2013 หรือฤดูกาลสุดท้ายในการคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั่นผ่านมานานถึง 8 ปีแล้ว ในขณะที่ฤดูกาลล่าสุด ระยะห่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์มากถึง 12 คะแนน และนั่นคือช่องว่างที่พวกเขาต้องการทำให้มันลดลงมากที่สุด เช่นเดียวกับการต่อสู้กับอีกหลายสโมสรที่ ณ เวลานี้ พรีเมียร์ ลีก ไม่ได้มีแค่ “ท๊อปโฟร์” หรือ “บิ๊กซิกซ์” อีกต่อไปแล้ว แต่มีมากถึงครึ่งลีกที่สามารถก้าวขึ้นมาแย่งพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่มีเพียง 4 อันดับเท่านั้นที่จะได้มันไปครอบครอง
และเชื่อได้เลยว่าการเข้ามาของ ซานโช่ เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้นของการเสริมทีมในฤดูกาลนี้
แค่ “ก้าวแรก” เท่านั้น!!
Copyright © 2019 UFA6556 แทงบอลออนไลน์ มั่นคง ปลอดภัย อันดับหนึ่งเมืองไทย | All right reserved.