ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

อินทรีเหล็กในวันถ่ายเลือด

     สื่อระบุว่า เยอรมันพ่ายแพ้เกมล่าสุด คือความฉิบหายที่สุดแล้วนับจากปี 1931 เกมนั้นพวกเขาโดน ออสเตรีย สอยไป 6-0 เท่ากัน แต่ขอเลือกจำจากเกมที่ดูทันก็ต้องบอกว่า หมดสภาพที่สุดนับจากแพ้อังกฤษ 5-1 คาบ้านในปี 2001 กับความพ่ายแพ้สเปน 6-0 ในเกมที่ผ่านมา แม้เป็นเพียงเกม เนชั่นส์ ลีก ที่ไม่มีผลอะไรมากนัก แต่ก็เป็นเกมที่ “รับไม่ได้” เลยสำหรับแชมป์โลก 2014

     สเปน และ เยอรมัน ไม่ได้อยู่ในฟอร์มพีคที่สุดของทั้งสองประเทศ พวกเขามีจุดสูงสุดของตนเองไปแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงการสร้างทีมขึ้นมาใหม่

     สเปน คว้าแชมป์ลีก เอ กลุ่ม 4 ไปแบบปิดฉากสวยงามทั้งที่ก่อนเกม พวกเขาป้อแป้ มาหลายเกม ไม่มีฟอร์มไหนเกมสวยเลย เน้นเก็บผลการแข่งขัน เน้นชนะไว้ก่อน มาเกมนี้เปิดบ้าน ขวิดอินทรีไส้ไหล พร้อม แฮตทริกของ เฟร์ราน ตอร์เรส ปีกคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้

     เยอรมัน ของ โยกี้ เลิฟ นับจากตกรอบแรกฟุตบอลโลก 2018 มีการเปลี่ยนแปลงทีมเยอะมาก เลิฟ เลือกจะตัด โธมัส มุลเลอร์, มัทธ์ ฮุมเมิลล์ รวมถึง เยอโรม บัวเต็ง ออกจากทีมไป ไม่รวมกับที่หมดสภาพไปแล้ว สร้างทีมใหม่ขึ้นมา ชื่อ นักเตะ หลายคนในทีมชาติเยอรมันชุดนี้ สำหรับแฟนบอลไทย หากไม่ได้ตามบุนเดสลีกา หรือทีมชาติเยอรมัน บางคนอาจไม่รู้จักชื่อนักเตะหลายคน ว่าลงเล่นกับทีมไหน บ่งบอกถึงความพยายามในการถ่ายเลือดครั้งใหญ่ของอินทรีเหล็ก

     เยอรมัน กับ สถิติในเกมล่าสุด เกมรับไม่ต้องพูดเยอะโดนไปครึ่งโหล คือพังพินาศอยู่แล้ว จากโอกาสเข้ากรอบ 10 ครั้งของสเปน แต่เกมรุก ทั้งเกม “ยิงหลุดกรอบ 1 เข้ากรอบ 0” นั่นหมายความว่า ได้โอกาสยิงเพียงครั้งเดียวตลอด 90 นาที

หายนะที่แท้ทรู…

     เลิฟเข้ามาคุมทีมชาติเยอรมันแบบเต็มตัว ต่อจาก เยอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ในปี 2006 ไม่รวมกับที่เขาอยู่ในทีมงานของทีมชาติอยู่แล้ว เข้าสู่ปีที่ 14 และกำลังจะเข้าปีที่ 15 ในวันที่ลงเล่น ยูโร 2020 กลางปีหน้า กับเวลาที่เหลืออีกครึ่งปี ในรอบแบ่งกลุ่มพวกเขาก็ต้องเจอทั้ง ฮังการี, ฝรั่งเศส และ โปรตุเกส อย่างน้อยสองทีมศักดิ์ศรีไม่เป็นรองพวกเขา ส่วนอีกหนึ่งทีม ฟอร์มเยอรมันไม่ได้เหนือกว่า ณ.เวลาปัจจุบัน

     “ผมไม่รู้จริงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับทีม” ส่วนหนึ่งของสัมภาษณ์หลังเกม ที่มองแบบคนนอก คือ ยอมรับแบบไม่มีข้อแก้ตัว

     ส่วนตัวคิดว่า ทัวร์นาเมนต์นี้จะเป็นทัวร์นาเมนต์อำลาของ เลิฟ แล้ว แม้ว่าจะมีข่าวว่าสัญญาของเขาจะจบหลังฟุตบอลโลก 2022 ก็ตาม มองแล้วเห็นเงาของ อาร์แซน เวนเกอร์ ในช่วงยุคปลายของเขาในการคุมทีม อาร์เซนอล ที่ใจยังสู้ แต่ผลงานมันไปต่อไม่ได้แล้ว ก็ต้องถึงเวลาแยกย้าย หลังจากอยู่กับทีมนาน

     การตกรอบแรกฟุตบอลโลก 2018 ก็เป็นสัญญาณเลวร้ายมาครั้งหนึ่งแล้ว เดเอฟเบ ยังเชื่อมั่น และเลิฟเลือกจะลุยต่อไป และพยายามเปลี่ยนแปลงทีม ถ่ายเลือด มองหานักเตะใหม่ยังกระหายความสำเร็จสู่ทีม เก็บแกนหลักบางส่วนเอาไว้ แต่แนวรับที่ตัดสินใจ ทิ้ง ฮุมเมิลส์ และ บัวเต็ง สองแข้งซีเนียร์ ในแนวรับ ที่เป็นหลักมาตลอด 6-7 ปีหลังสุดไปพร้อมกันหลังจบฟุตบอลโลก และดัน นิคลาส ซูเล่ หรือ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เป็นหนึ่งในตัวหลัก มองว่านี่เป็นปัญหาใหญ่ ที่ไม่มีนายใหญ่ในแนวรับ ไม่รวม มานูเอล นอยเออร์ ยังไงเขาก็คือนายทวาร ไม่ใช่กองหลัง ไม่นับเกมนี้ 5 เกมหลังสุดพวกเขาเสีย 8 ประตู ถ้ารวมกับเกมนี้ ก็ชัดเจนว่า เยอรมัน การบ้านเยอะเลยในเกมรับ

     “ถึงเวลาเอา เยอโรม บัวเต็ง กลับมาได้แล้ว” เมซุต เออซิล ทวิตข้อความหลังเกมนี้ แสดงความเห็นชัดเจน เพื่อนเก่าของเขาควรถูกเรียกตัวมาช่วยทีม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเสียงของเขาจะดังไปถึง เลิฟ หรือเปล่า กับช่วงเวลาที่เหลือ ก่อนทัวร์นาเมนต์ใหญ่

ประสบการณ์ในเกมทีมชาติ

     เรื่องของประสบการณ์ในเกมทีมชาติ ของ นักเตะ เยอรมัน เป็นอีกส่วนที่ทำให้ อินทรีเหล็ก ไม่กลมกล่อมแบบที่ผ่านมา นักเตะหลายคนอาจจะติดทีมชาติมาพอสมควร แต่ไม่เคยยืนระยะเป็นตัวหลักมาก่อน อย่างเช่น อิลคาย กุนโดแกน หรือ เลรอย ซาเน่ รวมถึง ติโม แวร์เนอร์ พวกนี้คือ แกนหลักรุ่นต่อไปแน่นอน แต่วันนี้ยังต้องการเวลามากกว่านี้ เช่นเดียวกับ นักเตะหลายคน ผลงานส่วนตัวดี บางคนดีมาก อย่าง แซร์จ นาบรี้ แต่ก็ยังต้องการในเงื่อนไขเดียวกัน

     “ความต่อเนื่อง” ในช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงทีมชาติ ต่างจากระดับสโมสรตรงที่ คุณไม่สามารถใช้เงินซื้อ นักเตะ ที่คุณชอบได้ทุกคน แต่มันคือเรื่องของความเป็นชาติ ดังนั้น หากตัวหลักคนหนึ่งออกจากทีมไป และ นักเตะชาติเดียวกันที่เหลือคุณภาพไม่ดีพอ ก็ต้องหาตัวที่ คิดว่าใกล้เคียงที่สุดมาทดแทน เป็นเรื่องปกติมาก เพราะไม่ว่าจะ ฝรั่งเศส, สเปน, อิตาลี หรือว่า เยอรมัน ชาติที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว ก็ไม่ใช่ไม่เคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้

     เยอรมัน เอายุคใกล้ที่สุด ก็เคยบรรลัยมาแล้วในกลางทศวรรษ 90 หลังคว้าแชมป์ ยูโร 1996 พวกเขาเก็บแกนหลัก ใช้งานนานเกินไป และไม่สามารถดันนักเตะใหม่ ขึ้นมาได้ทัน และมากพอ ทำให้พวกเขา “ฟองสบู่แตก” ในฟุตบอลโลก 1998 ตามด้วยเละเทะใน ยูโร 2000 ก่อนจะมีการปรับโครงสร้างกันครั้งใหญ่ ส่วนตัวมองว่า เยอรมัน เองก็ทราบดีอยู่แล้ว และ เลิฟ เองก็พยายามไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาอีก เพียงแค่ว่า นักเตะ ที่ดันขึ้นมา กับตัวหลักที่เลือกตัดออกไป ความสมดุลมันยังไม่เข้ากัน

     และนั่นคือปัญหาใหญ่ของ เยอรมัน 2020 ที่ทำให้สุดท้ายแล้ว พวกเขาลงเล่นเกมสุดท้ายของปีนี้ ด้วยความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายที่สุดในรอบ 89 ปี เช่นนี้ พร้อมกับปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างด่วนที่สุด เพื่อไม่ให้ ศึกใหญ่กลางปีหน้า พวกเขาต้องจบลงแบบ ฟุตบอลโลก 2018 เพราะความอับอายเช่นนั้น ครั้งเดียวก็มากเกินพอ!!

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้