10 นักเตะ ที่จากไปก่อนวัยอันควร Part 1

ฟุตบอล เป็นกีฬาแห่งการใช้พละกำลัง มันสมอง แท็กติก เข้าต่อสู้กันเพื่อความเป็นผู้ชนะ แต่เมื่อจบเกมทุกคนคือ เพื่อนร่วมอาชีพ ฟุตบอล เป็นหนึ่งในกีฬาที่ระยะเวลาของ อาชีพ นั้น มีระยะสั้นมาก นักกีฬาฟุตบอล มีอายุงานเฉลี่ย 15-20 ปี เท่านั้น ขึ้นกับ สภาพร่างกาย สภาพจิตใจ และความต้องการในการทำงานเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตามก็มี นักเตะ จำนวนหนึ่งในวงการฟุตบอล ที่กลับต้องจบชีวิต ลงก่อนวัยอันควรด้วยเหตุผลแตกต่างกันออกไป ซึ่งส่วนมากมักจะเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับ หัวใจวาย วันนี้ เราจะมาบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้กันครับ ว่ามี นักเตะอาชีพ คนไหนกันบ้าง ที่ต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร

2 คนแรกกับการสูญเสีย

มาร์ค-วิเวียน โฟเอ้ (28 ปี หัวใจวาย)

เมื่อพูดถึงการเสียชีวิตของ นักเตะ สักคนหนึ่งก่อนวัยอันควรในสนามฟุตบอล ชื่อของ มาร์ค-วิเวียน โฟเอ้ กลายเป็นเสมือนชื่อแรกที่หลายคนคิดถึง (ทั้งที่ความจริงแล้วมี นักเตะ ก่อนหน้าเขา และหลังจากเขาอีกจำนวนมากที่เสียชีวิตลงในสนามแข่ง) เพราะการจากไปของ โฟเอ้ เกิดในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับชาติที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกอย่างเกม ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ปี 2003 ซึ่ง แคเมอรูน บ้านเกิดของเขาพบกับทีมชาติ โคลอมเบีย ในรอบรองชนะเลิศ ในเดือนมิถุนายน 2003

นาทีที่ 72 ระหว่างเกมการแข่งขัน โฟเอ้ ซึ่งอยู่บริเวณกลางสนามล้มลงโดยไม่มีการเข้าปะทะใดทั้งสิ้น หายใจรวยรินท่ามกลางความตกใจของผู้เล่นทั้งสองฝ่าย ก่อนจะมีการนำเขาออกไปนอกสนามเพื่อทำการผายปอด และยื้อชีวิตภภายในศูนย์การแพทย์ภายในสนาม แต่ก็ไม่สามารถยื้ชีวิตของเขาเอาไว้ได้ นักเตะ แคเมอรูน จบเกมต่างฉลองชัยหลังเข้ารอบชิงชนะเลิศ ก่อนต้องน้ำตาอาบแก้มเมื่อพบว่าเพื่อนรักจากไปไม่มีวันกลับ โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฐานะของสโมสรสุดท้ายของเขา ประกาศยกเลิกหมายเลข 23 ซึ่งเขาใช้งาน เพื่อเป็นการให้เกียรติกับ นักเตะ ผู้นี้

การจากไปของ โฟเอ้ สร้างแรงกระเพื่อมทางการแพทย์ของวงการฟุตบอลมากมาย เกี่ยวกับ นักเตะ ที่สภาพร่างกายแข็งแกร่ง แต่กลับต้องเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย และมีการเพิ่มมาตรฐานการตรวจร่างกายของ นักเตะ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก แต่แล้วอีกไม่กี่เดือนต่อมา นักเตะ ดังระดับทีมชาติอีกคนก็ต้องจากไปด้วยอาการเดียวกับ โฟเอ้

มิคลอส เฟเฮอร์ (24 ปี หัวใจวาย)

หลังการเสียชีวิตของ โฟเอ้ ประมาณ 7 เดือน การเสียชีวิตของ มิคลอส เฟเฮอร์ กองหน้าทีมชาตฮังการี ก็เกิดขึ้น ท่ามกลางความตกใจของแฟนบอล เพราะเขาเพิ่งอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น และลงเล่นกับสโมสร “เหยี่ยวลิสบอน” เบนฟิก้า สโมสรดังของประเทศโปรตุเกส

เฟเฮอร์ ลงเล่นให้ เบนฟิก้า พบกับ วิตอเรีย กิมาไรส์ โดยเขาลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมนั้น ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่แล้วในช่วงท้ายเกม เขาโดนใบเหลือง และกำลังจะรอเล่นเกมรับ จู่ๆ เขากลับล้มลงแน่นิ่ง ท่ามกลางการเข้าไปหาของ นักเตะ ทั้งสองทีม ทีมแพทย์เข้าไปปฐมพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ก็ไม่อาจยื้อการจากโลกนี้ของเขาได้ ท่ามกลางความตกใจ และโศกเศร้าของทุกคน

เบนฟิก้า ประกาศรีไทร์หมายเลขเสื้อเบอร์ 29 ของเขา พร้อมอุทิศชัยชนะกับการคว้าแชมป์ โปรตุกีส คัพ ในฤดูกาลนั้น ซึ่งเป็นแชมป์แรกของสโมสร นับจากปี 1996 ให้กับ เฟเฮอร์ ผู้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ พร้อมกับมีการสร้างอนุสาวรีย์ของ นักเตะ คนนี้ และตั้งไว้ภายในสนามของ เบนฟิก้า เพื่อเป็นการระลึกถึงเขา นอกจากนี้ในฤดูกาลต่อมาซึ่ง เบนฟิก้า สามารถคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ ประธานสโมสร และโจวานนี่ ตราปัตโตนี่ ผู้จัดการทีม และนักเตะในทีมในเวลานั้น ยังได้เดินทางไปยัง ฮังการี บ้านเกิดของ เฟเฮอร์ เพื่อพบกับครอบครัวของเขา และมอบเหรียญแชมป์ลีก ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า เฟเฮอร์ ยังคงเคียงข้างทีม คือเพื่อนร่วมทีม และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

หัวใจวายเป็นเหตุที่ขึ้นง่าย

อันโตนิโอ ปวยต้า (22 ปี หัวใจวาย)

โลกฟุตบอลยังคงสูญเสีย นักเตะ มากมายจากปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพแบบเฉียบพลัน แต่อีกหนึ่งครั้งที่โลกไม่เคยลืมคือในปี 2007 กับการจากไปของ อันโตนิโอ ปวยต้า วิงแบ็คดาวรุ่งทีมชาติสเปน วัย 22 ปี ผู้ซึ่งเป็นที่รักของแฟนบอล เซบีย่า เขาจากไปท่ามกลางความไม่อยากเชื่อของทุกคน

ในเกมเปิดสนามฤดูกาล 2007-2008 ในเกมพบกับ เคตาเฟ่ ในช่วงท้ายครึ่งแรก ในจังหวะที่บอลออกหลัง ปวยต้า มีอาการทรุดลงไปกับพื้น อันเดรส ปาลอป นายทวารเพื่อนร่วมทีม วิ่งเข้ามาดูอาการ พร้อมเรียกทีมแพทย์ข้างสนามเข้ามาดูอาการเป็นการด่วน ณ.เวลานั้น ปวยต้า ยังคงรู้สึกตัว สามารถพูดคุยได้ และเดินออกจากสนามได้ด้วยตนเอง เพื่อเข้าไปยังห้องแต่งตัว และในระหว่างนั้นเอง อาการหัวใจวายกลับเกิดซ้ำอีกครั้ง ก่อนถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเป็นการด่วน และอยู่ในห้องไอซียู ตลอดระยะเวลาสามวัน ก่อนจากโลกนี้ในวันที่ 28 สิงหาคม 2007 ด้วยอาการหัวใจวาย โดยที่ต้องทิ้งแฟนสาว ซึ่งตั้งครรภ์ลูกคนแรกของเขาไว้ท่ามกลางความเสียใจของคนทั้งเมือง แม้กระทั่ง เรอัล เบติส สโมสรอริร่วมเมืองก็แสดงความเคารพในการจากไปของ นักเตะ ด้วยการเข้าร่วมพิธีศพ ซึ่งจัดในเมืองเซบีย่า ท่ามกลางความโศกเศร้าของชาวเมือง กับการจากไปของนักเตะที่เกิดในเมืองแห่งนี้ และจากไปในเมืองแห่งนี้

เซบีย่า ประกาศยกเลิกเสื้อหมายเลข 16 ของเขาเป็นการให้เกียรติครั้งสุดท้าย แต่ไม่ได้รับการอนุญาตจากสมาคมฟุตบอลสเปน เนื่องจาก ลา ลีกา มีการระบุว่า นักเตะในลา ลีกา จำต้องสวมหมายเลข 1-25 เท่านั้นในทีมชุดใหญ่ ดังนั้น เซบีย่า จึงประกาศให้หมายเลข 16 เป็นหมายเลขพิเศษที่ นักเตะ ผู้สวมใส่จะต้องเป็น นักเตะ ที่เติบโตขึ้นมาจากระบบเยาวชนของสโมสรเท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิ์สวมหมายเลขนี้ ขณะที่ในเกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ซึ่ง เซบีย่า พบกับ เอซี มิลาน ทั้งสองทีมมีการติดชื่อ “PUERTA” ไว้ใต้หมายเลขของทุกคนเพื่อเป็นการระลึกถึงเขาด้วย

การจากไปของเขา รวมถึง โฟเอ้ และ เฟเฮอร์ ส่งผลให้ ฟีฟ่า มีการสั่งให้ทุกสนามต้องมีการเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือในเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้ เพื่อลดโอกาสเกิดเรื่องเศร้าเช่นนี้อีก

ฟิล โอ’ดอนเนลล์ [35 ปี หัวใจวาย]

กองกลางมากประสบการณ์ ผู้ซึ่งเคยติดทีมชาติสกอตแลนด์มาแล้ว กลายเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องสังเวยชีวิตในสนามแข่งขัน ระหว่าง มาเธอร์เวลล์ ต้นสังกัดของเขา พบกับ ดันดี ยูไนเต็ด หลังจากเปลี่ยนลงสนามไปเพียงไม่นานนัก เขาเกิดอาการวูบ และต้องเข้ารับการปฐมพยาบาล อยู่นานหลายนาที ก่อนจะส่งตัวไปยังโรงพยาบาล แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของเขาเอาไว้ได้ โดยมีการระบุว่า เกิดจากอาการหัวใจห้องด้านซ้ายมีปัญหาเป็นเหตุให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

โอ’ดอนเนลล์ เป็นนักเตะเยาวชนของมาเธอร์เวลล์มาตั้งแต่อายุเพียง 18 ปี ก่อนจะย้ายไปดล่นกับหลายทีม และกลับมาร่วมงานกับ มาเธอร์เวลล์ อีกครั้งในปี 2004 จนกระทั่งเสียชีวิต โดยทุกสโมสรที่เขาเคยลงเล่นทั้ง กลาสโกว์ เซลติก และเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ต่างประกาศคำอาลัย และมีพิธีระลึกถึงเขาในฐานะอดีตนักเตะของทีม รวมถึงมีเกมการกุศลเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเขา ซึ่งมีภรรยา และลูกอีกสองคนต้องดูแล

มาเธอร์เวลล์ ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อสแตนด์ฝั่งหนึ่งของ เฟอร์ พาร์ค รังเหย้าของตนเอง เป็นชื่อ “เดอะ ฟิล โอ’ดอนเนลล์ สแตนด์” ขณะที่หมายเลข 10 ของเขา นับจากการจากไปในปี 2007 ไม่มีใครได้ใช้งานอีกเลย ยกเว้น เดวิด คลาร์กสัน ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายของเขา เคยสวมใส่เป็นเวลาหนึ่งฤดูกาล และสโมสรไม่ได้ทำการยกเลิกหมายเลขเสื้อแต่อย่างใด แต่ก็ไม่มี นักเตะคนไหนเลือกใช้งานเช่นเดียวกัน

อุบัติเหตุทางงรถยนต์ ก็มีเช่นกัน

โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส (35 ปี อุบัติเหตุทางรถยนต์)

อดีตปีกทีมชาติสเปน เคยได้รับการระบุว่าเป็น นักเตะ ค่าตัวแพงที่สุดของสโมสรอาร์เซนอล หลังการย้ายมาร่วมทีมปืนใหญ่ในเดือนมกราคม ปี 2004 เรเยส คือเด็กปั้นของสโมสร เซบีย่า ที่โดดเด่นเรื่องของความเร็ว พละกำลัง ความสามารถในการเข้าทำที่หาตัวจับได้ยาก อาร์แซน เวนเกอร์ เคยระบุว่าเขาให้ แมวมองของสโมสร อาร์เซนอล ติดตามดูฟอร์มเขามากกว่า 50 ครั้ง ก่อนตัดสินใจดึงตัวเขามาร่วมงานด้วย แม้การย้ายมาเล่นในอังกฤษของเขาจะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ตลอด 2 ฤดูกาลครึ่งกับทีม แต่ชื่อของ เรเยส ก็กลายเป็นที่รู้จักของแฟนบอลไปทั่วโลก เขาย้ายกลับไปเล่นในสเปน กับ เรอัล มาดริด สโมสรที่ทำให้เขากลายเป็น นักเตะ แชมป์ ลาลีกา สเปน ตามด้วย แอตเลติโก มาดริด และ เซบีย่า สโมสรที่ทำให้เขาได้แชมป์ ยูโรป้า ลีก รวมกันมากถึง 5 สมัย รวมถึงความสำเร็จอีกหลายอย่าง อย่างไรก็ตามในวันที่ 1 มิถุนายน 2019 เรเยส ซึ่งลงเล่นกับสโมสร เอ็กเตรมาดูร่า สโมสรในเมือง อูเทรา บ้านเกิดของเขาเอง เขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์พลิกคว่ำ ซึ่งมีการระบุว่าขับมาด้วยความเร็วมากกว่า 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเขาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พร้อมกับญาติที่โดยสารมาด้วยกัน รวมถึงเพื่อนอีกคนซึ่งรอดชีวิตด้วยอาการสาหัส สิ้นชื่อ ปีกทีมชาติสเปน บนวัย 35 ปี แบบไม่มีวันกลับ ท่ามกลางความเศร้าโศกของแฟนบอลทั่วโลก โดยเฉพาะ เซบีย่า สโมสรที่สร้างเขาขึ้นมาเป็น นักเตะ อาชีพ

พรุ่งนี้มาตามกันต่อใน Part 2 ครับ